ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

Nongkai : หนองคาย

Nongkai : หนองคาย
หนองคาย


จังหวัดหนองคาย
จังหวัดหนองคาย เป็นจังหวัดชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขงที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะเป็นประตูสู่เมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นที่ตั้งของสะพานมิตรภาพไทย - ลาวแห่งแรก ที่เชื่อมโยงประเทศไทย - ลาวเข้าด้วยกัน ทำให้หนองคายในวันนี้ กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะเป็นจุดชมบั้งไฟพญานาคในวันออกพรรษาที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
และด้วยความที่เป็นเมืองสงบเงียบ เรียบง่าย เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งศาสนา วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตพื้นบ้าน ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และมีเสน่ห์ ทั้งยังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ หลากหลายไปด้วยอาหารการกิน และสินค้านานาชนิด มีโรงแรมที่พักมากมาย และการคมนาคมสะดวกสบาย เมืองริมโขงแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่นักเดินทางไม่ควรพลาด มาเยี่ยมเยือน

จังหวัดหนองคายมีเนื้อที่ประมาณ 7,332 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 4.58 ล้านไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 27 ของประเทศ และมีพื้นที่ติดแม่น้ำโขงมากที่สุดเป็นระยะทาง 320 กิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง มีพื้นที่เป็นคลื่นลอนชันและป่าธรรมชาติอยู่บ้าง และมีพื้นที่ราบบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ส่วนทางทิศตะวันตกบริเวณเทือกเขาต่างๆ เป็นภูเขาสูงชัน
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว

จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์เมืองหนองคาย เริ่มขึ้นเมื่อกว่า 200 ปีมาแล้ว จากชุมชนเมืองเล็กๆ 4 เมืองริมฝั่งแม่น้ำโขง คือ เมืองพรานพร้าว เมืองเวียงคุก เมืองปะโค และเมืองไผ่ (บ้านบึงค่าย) ซึ่งปัจจุบันยังพบซากโบราณสถานของเมืองต่างๆ เหล่านี้ได้ตามวัดต่างๆ บนเส้นทางเลียบริมแม่น้ำโขงสายท่าบ่อ-ศรีเชียงใหม่
ในปี พ.ศ. 2369 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าอนุวงศ์ผู้ครองนครเวียงจันทน์ ได้ตั้งตนเป็นกบฏ ไม่ยอมขึ้นกับไทย และได้ยกทัพมากวาดต้อนผู้คนในเขตแดนไทยกลับไปเป็นเชลย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาราชเทวียกทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์ โดยมีท้าวสุวอธรรมา (บุญมา) เจ้าเมืองยโสธร และพระยาเชียงสา เป็นกำลังสำคัญในการช่วยทำศึกปราบกบฏจนได้รับชัยชนะ และสามารถจับกุมตัวเจ้าอนุวงศ์ลงมายังกรุงเทพฯ ได้สำเร็จ
ต่อมาใน พ.ศ. 2370 รัชกาลที่ 3 จึงพระราชทานบำเหน็จให้ท้าวสุวอธรรมาสร้างเมืองขึ้นที่บ้านไผ่ เรียกชื่อว่า "เมืองหนองคาย" ตามชื่อของหนองน้ำใหญ่ทางทิศตะวันตกของเมือง และโปรดเกล้าฯ ให้ท้าวสุวอธรรมาขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองคนแรกของเมืองหนองคาย
ใน พ.ศ. 2434 เมืองหนองคายได้เป็นสถานที่ตั้งของมณฑลลาวพวน และใน พ.ศ. 2436 เมื่อไทยเสียดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศส จึงได้มีการย้ายที่ทำการมณฑลไปตั้งที่บ้านหมากแข้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2443 ได้จัดตั้งมณฑลอุดรขึ้นที่บ้านหมากแข้ง เมืองหนองคาย จึงมีฐานะเป็นเมืองหนึ่งของมณฑลอุดร
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว

จนถึงปี พ.ศ. 2476 ได้มีการยกเลิกการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองหนองคายจึงได้แยกตัวออกมาจากมณฑลอุดร และมีฐานะเป็น "จังหวัดหนองคาย" นับแต่นั้นมา
ปัจจุบันจังหวัดหนองคายแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ 4 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอท่าบ่อ อำเภอบึงกาฬ อำเภอพรเจริญ อำเภอโพนพิสัย อำเภอโซ่พิสัย อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอสังคม อำเภอเซกา อำเภอปากคาด อำเภอบึงโขงหลง อำเภอศรีวิไล อำเภอบุ่งคล้า กิ่งอำเภอสระใคร กิ่งอำเภอเฝ้าไร่ กิ่งอำเภอรัตนวาปี และกิ่งอำเภอโพธิ์ตาก
roการเดินทางสู่หนองคาย
หนองคายอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 615 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดหนองคายได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง และรถไฟ
  • โดยรถไฟ:
    การรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังจังหวัดหนองคายทุกวัน ทั้งรถเร็วและรถด่วน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ www.railway.co.th
  • โดยรถยนตร์:
    จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จนถึงจังหวัดสระบุรี แล้วแยกขวาเข้าใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ผ่านนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี ไปจนถึงหนองคาย
  • โดยรถประจำทาง:
    มีรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-หนองคาย ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th
สงกรานต์ริมโขงที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว

การเดินทางภายในหนองคาย
ในตัวจังหวัดหนองคายมีรถชนิดต่างๆ ให้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะต่างๆ ได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสม
  • รถสองแถว มีวิ่งบริการจากสถานีขนส่งไปยังที่ต่างๆ ในตัวเมือง นักท่องเที่ยวอาจเหมารถสองแถวไปเที่ยวได้ทั้งในเมืองและต่างอำเภอ คิดราคาวันละ 1,000-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง
  • รถสามล้อเครื่อง หรือสกายแล็บ และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ตามจุดต่างๆ ในจังหวัด เช่น หน้าตลาดเทศบาล หน้าสถานีขนส่ง ค่าบริการมีทั้งแบบตกลงกันตามแต่ระยะทางและแบบเหมาจ่าย
roกิจกรรมการท่องเที่ยว
จังหวัดหนองคายมีทรัพยากรในด้านการท่องเที่ยวมากมายและหลากหลายรูปแบบ มีกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม สำหรับพุทธศาสนิกชนที่ได้ไปเยือนเมืองแห่งนี้ กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด คือ การเยี่ยมชมและนมัสการหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย ชมพระธาตุกลางน้ำ ขึ้นภูทอกชมทิวทัศน์และนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ฝึกปฏิบัติธรรมที่วัดหินหมากเป้ง ชมโบราณสถานพระธาตุบังพวน นมัสการพระพุทธรูปหล่อพ่อทองแสน วัดท่าตกเรือ และนมัสการหลวงพ่องค์ตื้อ ที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ
สงกรานต์เมืองหนองคาย

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่น ชอบธรรมชาติ คือ ดูนกน้ำที่บึงโขงหลง ขี่จักรยานท่องเที่ยว เที่ยวถ้ำ เที่ยวน้ำตก เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมพรรณไม้ ชมทิวทัศน์ และตั้งแคมป์พักแรมที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว กิจกรรมท่องเที่ยวแบบ ผ่อนคลายอื่นๆ เช่น พักโฮมสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้าน ล่องเรือชมธรรมชาติและวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง ขี่จักรยานตามเส้นทางเลียบริมแม่น้ำโขง พักผ่อนหย่อนใจที่หาดสีกายและหาดจอมมณี เดินชมตลาดและเลือกซื้อสินค้านานาชนิดที่ตลาดท่าเสด็จ ดูบั้งไฟพญานาคที่อำเภอโพนพิสัยในช่วงเทศกาลออกพรรษา หรือพักในรีสอร์ตสวย นวดแผนโบราณ และทำสปา เป็นต้น
บั้งไฟพญานาค

หนองคายเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยสีสันหลากหลาย ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี และแหล่งธรรมชาติ อีกทั้งผู้คนในท้องถิ่นยังคงรักษาขนบธรรมเนียม และประเพณีดั้งเดิมอันงดงามไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ตลอดทั้งปีจึงมีการจัดงานเทศกาลเฉลิมฉลอง และงานประเพณีที่สำคัญ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศหลายงาน โดยมีงานเด่นดังประจำปีที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือ งานประเพณีบุญบั้งไฟ งานตักบาตรเทโว และแข่งเรือมิตรภาพไทย-ลาว เป็นต้น
บั้งไฟพญานาค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น